‘พีระพันธุ์’ เผยผลสำเร็จการเจรจาภาคธุรกิจจีน เดินหน้าลดต้นทุนติดตั้งระบบโซลาร์ช่วยคนไทย
‘พีระพันธุ์’ ประสบความสำเร็จเจรจาภาคธุรกิจจีน พร้อมขยายความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและอุปกรณ์ระบบโซลาร์ราคาถูก ลดต้นทุนการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ให้ภาคประชาชนและธุรกิจไทย
(2 มิ.ย. 68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนระหว่างวันที่ 26-30 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมาว่า การเดินทางครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเจรจาความร่วมมือกับภาคธุรกิจด้านระบบพลังงานแสงอาทิตย์ของจีน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนไทยสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์หรือระบบโซลาร์ที่ได้มาตรฐานในราคาที่ถูกลง ซึ่งจะเป็นอีกทางเลือกในการลดภาระค่าไฟของประชาชน และช่วยลดต้นทุนของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมลงด้วย
นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ในการเยือนจีนครั้งนี้ ตนได้พบปะเจรจากับเจ้าของและผู้บริหารระดับสูงของบริษัทชั้นนำที่อยู่ในภาคการผลิตอุปกรณ์และระบบพลังงานแสงอาทิตย์ตลอดห่วงโซ่อุตสาหกรรม นับตั้งแต่การผลิตแผงโซลาร์เซลล์ประเภทต่าง ๆ ระบบอินเวอร์เตอร์ทุกขนาด เครื่องกักเก็บพลังงานและแบตเตอรี่หลากหลายรูปแบบ ไปจนถึงระบบควบคุมและจัดการพลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยได้มีการหารือกันเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือที่จะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด และเปิดโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ระบบโซลาร์ที่มีคุณภาพในราคาถูกลง
นายพีระพันธุ์กล่าวอีกว่า จากการเยี่ยมชมและเจรจาหารือกับบริษัทชั้นนำ 6 แห่ง ในนครเซี่ยงไฮ้ และมณฑลเจียงซู ซึ่งล้วนเป็นผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ด้านระบบโซลาร์ในระดับโลก ประกอบด้วย บริษัท GoodWe Technologies บริษัท Canadian Solar Inc. (CSI) บริษัท Trina Solar บริษัท Changzhou Almaden บริษัท JinkoSolar และบริษัท Sungrow ทุกบริษัทต่างพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในแนวทางที่ตนนำเสนอซึ่งจะมีการประสานงานกันต่อไปเพื่อให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด
“เป็นเรื่องน่ายินดีที่ทุกบริษัทที่ได้ร่วมหารือกันในครั้งนี้ พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในแนวทางที่จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ภาคประชาชนและภาคธุรกิจของไทย ซึ่งต้องขอขอบคุณทางหอการค้าจีนที่ช่วยประสานการเจรจา โดยเฉพาะท่าน Shi Yonghong รองประธานหอการค้าจีน ที่เดินทางมาจากปักกิ่งเพื่อร่วมคณะเจรจาในครั้งนี้ พร้อมผู้ช่วยที่ดูแลด้านพลังงานและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับโซล่าร์ รวมถึงสถานกงสุลไทยประจำนครเซี่ยงไฮ้ที่ช่วยประสานงานด้านต่าง ๆ” นายพีระพันธุ์กล่าว
การขยายความร่วมมือกับภาคธุรกิจจีนในครั้งนี้ยังเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับการออกกฎหมายส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่จะปลดล็อกกฎระเบียบเกี่ยวกับการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้มีความสะดวก รวดเร็ว และส่งเสริมให้มีการใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้น เพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าของประชาชน และช่วยลดต้นทุนของภาคธุรกิจ โดยนายพีระพันธุ์ได้ยกร่างกฎหมายส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในนามของกระทรวงพลังงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเตรียมจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในเร็วๆนี้และจะรีบเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรในสมัยประชุมที่จะถึงนี้ เพื่อเป็นทางเลือกด้านพลังงานที่ยั่งยืนให้กับประชาชน
“ผมให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาด้านพลังงานทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องค่าไฟฟ้าซึ่งกระทบกับค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน และภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ การส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทดแทนไฟฟ้าหลักก็เป็นอีกแนวทางในการลดภาระค่าไฟที่ต้องเร่งทำ และเร่งหาช่องทางในการเข้าถึงเทคโนโลยีและอุปกรณ์ระบบโซลาร์ราคาถูก มีคุณภาพได้มาตรฐาน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน และต้องทำอย่างจริงจัง” นายพีระพันธุ์กล่าว
